วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

กลุ่มเพื่อนประชาธิปไตยใหม่ จุดเทียน-ปล่อยลูกโป่ง 14 ลูก ให้กำลังใจเพื่อน หน้าเรือนจำ


กลุ่มเพื่อนประชาธิปไตยใหม่ จุดเทียนร้องเพลงให้กำลังใจเพื่อนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน ที่ถูกจับกุม หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้เรือนจำไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม
28 มิ.ย. 2558 ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เวลา 20.00 น. มีประชาชนจำนวนประมาณ 30 คน มารวมตัวจุดเทียน พร้อมร้องเพลงให้กำลังใจนักศึกษา นักกิจกรรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกจับกุม และมีกลุ่มเพื่อนประชาธิปไตยใหม่จำนวนประมาณ 10 คนมาอ่านแถลงการณ์ให้เห็นถึงกระบวนการจับกุมที่ไม่ชอบธรรม และพฤติกรรมของศาลทหารที่ดำเนินการพิจารณาคดี นอกเวลาราชการ พร้อมเรียกร้องให้เรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ หากเห็นว่ากระบวนการเหล่านี้ไม่ชอบธรรม ขอให้ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง และกระบวนการที่ไม่ชอบธรรม 

00000
แถลงการณ์ กลุ่มเพื่อนประชาธิปไตยใหม่
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 มิถุนายน 2558 เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ภายหลังการออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองตามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยพฤติกรรมการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไม่มีการแจ้งสิทธิผู้ต้องหา เป็นการจับกุมโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่ไม่แสดงตัวว่ามาจากหน่วยไหน อีกทั้ง ในบันทึกการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ระบุว่าผู้ต้องหามีการหลบหนี ซึ่งไม่สอดคล้องกับการรายงานข่าวและปากคำของผู้ต้องหา ผู้ต้องหาจึงขอให้แก้ไขถ้อยคำว่าไม่ได้หลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม จึงทำให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ยอมเซ็นชื่อ และท้ายที่สุดก็ถูกพาตัวมาฝากขังกับศาลทหารกรุงเทพฯ
และในวันนี้ (28 มิถุนายน 2558) ทางทีมทนายความของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ได้แถลงว่า นักศึกษาทั้งหมดยังไม่ให้ปากคำเพราะยังไม่ได้พบทนายและทนายยังไม่สามารถไปพบได้ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่กลับจะเข้าไปสอบสวนในวันพรุ่งนี้โดยมีทนายความจากสภาทนายความเข้าร่วมแทน ทั้งที่นักศึกษาทั้งหมดมีทนายอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและสมควรถูกตั้งคำถามต่อความโปร่งใส่ในกระบวนยุติธรรม
นอกจากนี้ พฤติการณ์ของศาลทหารกรุงเทพฯ ได้ก่อให้เกิดคำถามต่อการทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม เพราะศาลทหารทำการไต่สวนและมีคำสั่งให้ฝากขังผู้ต้องหาในเวลา 21.00-24.00 ทั้งที่ไม่ใช่เวลาทำการปกติ อีกทั้งศาลทหารกรุงเทพฯ ได้ยกคำร้องขอคัดค้านการฝากขังผู้ต้องหาจำนวน 14 ราย ทั้งที่ทางกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เปิดเผยสู่สาธารณะตลอดมาว่าจะไม่หลบหนีพร้อมยินยอมให้หน้าที่จับกุมตัว และยืนยันว่าการกระทำของตนเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอีกด้วย จากองค์ประกอบดังที่กล่าวมา จึงไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะต้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 14 คน เว้นเสียแต่ต้องการจำกัดการใช้สิทธิเสรีภาพที่ทางกลุ่มกระทำการมาโดยตลอด
ด้วยพฤติการณ์เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐกำลังอ้างอำนาจตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อจับกุมและดำเนินคดีผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ขณะที่ศาลทหารก็ทำตัวเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อสนองตอบเป้าหมายทางการเมืองมากกว่าเป็นองค์กรตุลาการที่ใช้ดุลพินิจในกระบวนการยุติธรรม
ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ต้องรักษาไว้ซึ่งกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากกรณีใดที่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เห็นชัดเจนว่าหมายขังผู้ต้องหาทางการเมืองออกโดยองค์กรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมก็ไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น