วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

พบพบสารตั้งต้นก่อระเบิดในเต้นท์ คปท. ประหลาดไม่แจ้งตำรวจ แต่แจ้งทหาร


คปท.พบพบสารตั้งต้นก่อระเบิด ประสานทหาร รับตรวจสอบ
28ม.ค.





           28 มกราคม 2557 – คืบ..พบสารต้องสงสัย! เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ทีมการ์ด คปท. นำโดย “นัสเซอร์ ยีหมะ” หัวหน้าการ์ด และ “กิตติชัย ใสสะอาด”คณะทำงานด้านความปลอดภัย แถลงคืบหน้า หลังพบสารต้องสังสัยในการประกอบวัตถุระเบิดได้ ว่า

นัสเซอร์ - “การพบวัตถุต้องสังสัยครั้งนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอะไร จะต้องส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบก่อน แต่มีวัตถุบางส่วนที่บอกได้ ว่า ตรวจพบ คือ กระป๋องแก๊สน้ำตา และระเบิดควัน

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังจากนี้ จะประสานกับทหาร เพื่อใช้สุนัขดมกลิ่น มสช่วยตรวจสอบในที่ชุมนุม รวมถึง การ์ด อาจต้องตรวจค้นเต็นท์ จะต้องมีความ่สะดวกเพื่อความากขึ้นเพื่อความสบายใจ และเพื่อให้การชุมนุม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับ การรักษาความปลดภัย ภายในพื้นที่ชุมนุม ขอให้ผู้ชุมนุมมั่นใจได้ ส่วนการเปิด-ปิด ด่านตรวจทางเข้าออกนั้น จะประเมินจากสถานการณ์เป็นระยะ

เรื่องระบบรักษาความปลอดภัย มีทาง ป.ป.ช. ประสานมาเมื่อเช้า เพื่อยืนยัน ว่า ไม่ได้เปิดให้ผู้บุคคลภายนอกเข้ามา เพื่อป้องกันบุคคลมาก่อเหตุ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับตึก



การ์ดคปท. ยังตั้งจุดตรวจค้น ให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดจุดบอด รวมทั้งประสานกับหน่วยงานที่มีสุนัขตำรวจหรือสุนัขทหารมาร่วม ซึ่ง จะเป็นมาตรการเชิงรุก

ส่วนทางเข้า-ออก ขณะนี้ยังไม่ได้ปิดทางเข้า-ออก แต่จะปิดต่อเมื่อมีการข่าวแจ้งเตือน / วิกฤต หรือเลวร้าย เพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่

เหตุที่เกิดก็มีความเป็นไปว่า น่าจะเป็นกลุ่มการสร้างสถานการณ์ อาจนำไปสุ่การทำให้เกิดการล็อคตัวแกนนำ เรื่องแบบนี้ต้องระมัดระวัง ส่วนใหญ่การตอบโต้ของคปท. คือ การจุดพลุเตือนเพื่อให้ผู้ไม่ประสงค์ดี เพื่อให้ทราบว่า ทางคปท. รับทราบแล้ว เป็นการจุดพลุ เพื่อส่งสัญญาณเตือน ไม่ได้มีเจตนา ไปทำร้ายร่างกายใคร หรือทำให้เกิดอันตราย ในการส่งสัญญาณ..”






กิตติชัย- “..พบวัตถุต้องสงสัย ภายในเต้นท์ผู้ชุมนุม ด้านติดกับสำนักงาน กพร. ซึ่งผู้ชุมนุมแจ้งว่า พบชายต้องสงสัย ขนของเข้ามาในตอนกลางคืน โดยอ้างว่า เป็นหมอ อายุประมาณ 25-30 ปี คนเหตุการณ์เล่าให้ฟัง ว่า บุคคลต้องสงสัย มีพฤติกรรมแปลก หิ้วของหนักมาตอนกลางคืน และร่วมชุมนุมมาด้วยตลอด

ซึ่งที่ผ่านมา ระบบการรักษาความปลอดภัย ของ คปท. มีเข้มงวดอย่างละเอียด และขอความร่วมมือ ผู้ชุมนุมให้ช่วยกันสอดส่อง โดยเฉพาะเมื่อคืน ก็เพิ่งเกิดเหตุ ปาประทัดยักษ์ ใส่เวทีหลักของคปท.จึงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

สำหรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า มีความพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อทำให้ผุ้ชุมนุมหวาดกลัวตลอดเวลา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เวทีม็อบ คปท. ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป็นพื่นที่ที่มีการประกาศเอาคืนพื้นที่ จาก ศรส.ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ที่มีคนค้องการแทรกซึมมาสร้างสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา เราพบ “



(พ.อ.สมบัติ ธัญญะวรรณ หัวหน้าชุดทหารประจำในทำเนียบฯ ลงจุดเกิดเหตุ.. ที่พบสารต้องสงสัยในเต้นท์ผู้ชุมนุม)




ภาพล่าสุด มือปืน กปปส. ยิงกันเองสนั่น











คลิปวินาทีที่ 27 มัดชัดเจน กระสุนถูกยิงออกจากรถคุ้มกันสีขาวสองนัด ควันพวยพุ่ง

            จับวินาทีต่อวินาที รถคุ้มกันแกนนำคันสีขาว ยิงปืนออกมา 2 นัดพร้อมควันปืนพวยพุ่ง มัดชัดเจนว่าการ์ดรถคุ้มกันยิงพลาดกันเอง


  • นาทีที่ 0.07 “รถขอเส้นทางสะดวกนะครับ”
  • นาทีที่ 0.09 นัดแรกดังขึ้น ดูมุมล่างของจอ รถสีขาวคันนี้ เป็นรถคุ้มกันรถลำโพงข้างหลัง คอยป้องกันรถลำโพง
  • นาทีที่ 0.17 “อะ..รถไปเลยนะ รถไปเลย” เป็นการยิงปืน เคลียร์เส้นทางให้รถลำโพงคันสีขาว ด้านล่างของจอวิ่งเลี้ยวไปด้านซ้ายมือได้ ในขณะที่ทุกคนตรกลางจอ เกาะกลางถนน หลบหมอบลงกับพื้นทั้งหมด ฝ่ายแท็กซี่ฝั่งตรงข้ามด้านมุมขวาจอ หมอบหลบกระโดดลงสนามหญ้าข้างทางหมด
  • นาทีที่ 0.24 รถคุ้มกันคันสีขาว ที่อยู่ด้านหน้ารถลำโพงยังไม่ขยับออกไปไหนท่ามกลางเสียงกระสุน
  • นาทีที่ 0.26 รถคุ้มกันคันสีขาว ถอยหลังกลับช้าๆ ตรงมุมด้านขวาล่างของคลิป
  • นาทีที่ 0.27-0.28 เสียงปืนดังขึ้น 2 นัด พร้อมกลุ่มควันจากรถยนต์คันสีขาวดด้านขวามือของรถ ควันพวยพุ่งสองจังหวะเท่ากับเสียงกระสุนปืน





ถามคุณว่า ใครยิงกันแน่ 






อนาถชายชุดดำ การ์ด กปปส. ตั้งวงกินเหล้าแล้วเกิดมีปัญหากันในวงเหล้า รุมซ้อมชักปืนยิง เพื่อนตัวเองตายอนาถ!!

การ์ด กปปส. ตั้งวงกินเหล้าแล้วเกิดมีปัญหากันในวงเหล้า รุมซ้อมชักปืนยิง เพื่อนตัวเองตายอนาถ!!
[​IMG]

                06.00 น. ชายถูกทำร้าย ริมถนนกำแพงเพชร 6 หน้าหมู่บ้านเวียตกง แขวงลาดยาว เขตจตุจกร กรุงเทพฯ พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 45 ปี แต่งกายกางฟาติก สีดำ ปักอักษร US.ARMY ,เสื้อยืดสีดำ เขียนว่า ๒๕๕๗ ปฏิวัติประชาชน ,สวมสายรัดข้อมือ ธงชาติ ร่างกายมีร่องรอยถูกซ้อมใบหน้า และลำตัว มีรอยกระสุนที่หน้าอก 4 รู


เฮ้อออออ!!ม็อบคนดีจริงๆ แบบนี้ลุงกำนันไม่จ่าย 5 ล้านนะจ๊ะ ถือว่าไม่ได้ตายในหน้าที่

[​IMG]
[​IMG]
[​IMG]

เรื่องขี้ปะติ๋ว เสียงของชายหนุ่มที่ถูกบีบคอหน้าคูหาเลือกตั้ง


เรื่องขี้ปะติ๋ว เสียงของชายหนุ่มที่ถูกบีบคอหน้าคูหาเลือกตั้ง









ภาพของชายหนุ่มถูกบีบคอจนหน้าเหยเกเพียงเพราะต้องการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่หน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนเซนต์จอห์นโปลีเทคนิค ซอยวิภาวดี 32 เขตจตุจักร ถูกแชร์ว่อนโซเชียล มีเดีย เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ภาพนี้นอกจากจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ยืนหยัดในหลักการของระบอบประชาธิปไตยแล้ว ยังถูกสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง The Wall street Journal. นำไปเผยแพร่ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นอีกด้วย

กิตติ เอกแสงกุล คือ ชื่อและนามสกุลจริงของชายหนุ่มผู้นั้น

กิตติ ในวัย 40 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(บางมด) ปริญญาโท วิศวกรรม อุตสาหการ ธรรมศาสตร์ ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัว ให้สัมภาษณ์กับทีมงานประชาชาติธุรกิจออนไลน์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์การเมืองในอดีตอย่าง 14 ตุลา 16 หรือ 6 ตุลา 19 ที่คนไทยต้องตระหนักถึงความยากลำบากกว่าจะได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตย


"ที่ผ่านมามีแต่เผด็จการทหาร คนที่จะมาปกครองประเทศนี้ต้องมาด้วยกระสุนปืน ด้วยกำลังทหาร บรรพบุรุษเราเสียชีวิตทั้ง 14 ตุลา และ 6 ตุลา ทั้งนักศึกษาที่ตายไป เขาอยากได้ระบอบการปกครองที่มาจากการเลือกตั้ง มีคนตายเรื่องนี้มากมาย แล้ววันนี้คุณเห็นคนบ้าๆ บอๆ มายืนกั้นไม่ให้คุณเข้าไป แล้วคุณจะยอมแล้วเดินกลับบ้านนอนเฉยๆ แล้วบอกว่าทำเพื่อประเทศไทยเหรอ ผมอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับจิตสำนึกของสังคมไทยเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการลงคะแนนเสียงมากกว่า คือ ผมอยากบอกกับทุกคนว่าผมตระหนักในสิทธิของผมในการปกครองประเทศนี้"

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กิตติ เล่าว่า ต้องเดินฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ ต้องเดินผ่านการ์ด และผู้ชุมนุม ที่เข้ามาถามว่าจะไปไหน เมื่อตอบว่าจะไปเลือกตั้งก็กันไม่ให้เข้าไป จึงได้พยายามพูดจาว่านี่คือสิทธิ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอม พร้อมกับยกเหตุผลมากมายมาอธิบายว่าทำไมถึงไม่ควรไปเลือกตั้ง 



"เขาก็ไหว้บอกว่า ขอร้องเถอะพี่ อย่าเลือกตั้ง อย่ามาเลือกตั้ง บอกว่าถ้าผมเลือกตั้งแผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ผมยังจะมาเลือกอีกเหรอ ผมก็บอกว่า ผมจะใช้สิทธิของผม จะเข้าไป ผมก็ดันทุรังแล้วก็โชว์ใบเลือกตั้ง บอกว่าผมขอเลือกตั้งล่วงหน้า ผมมีธุระวันที่ 2 กุมภา ผมไม่สะดวก เขาก็กันไม่ให้ผมเข้าไป แล้วพอผมโชว์ใบเลือกตั้งล่วงหน้า ก็แห่กันมาใหญ่เลย ทีนี้เป็นป้าๆ ละ ผู้หญิงบางคนมาบอกผมว่าให้สงสารหนูเถอะ ถ้าพี่ไปเลือกตั้งหนูจะไม่ได้เงินจำนำข้าว หนูให้พี่เข้าไปไม่ได้ คือเหตุผลที่เขาพูดมันฟังดูแล้วเข้าท่าไหมล่ะ ส่วนที่โดนบีบคอน่าจะเป็นรอบสอง คือผมก็อยากจะเข้าไป จะยอมแพ้ได้ยังไง ประวัติศาสตร์มีคนตายมากแล้ว แล้วคุณโดนนิดหน่อยจะเป็นไร" 




แม้ว่าภาพโดนบีบคอจะดูรุนแรง แต่กิตติบอกว่า เป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว
"การที่ผมเจ็บปวดตรงนี้มันนิดเดียวเอง ผมไม่ใช่ว่าเข้าโรงพยาบาลหรือถูกเขาทำร้ายอะไรมากมาย แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ เราอย่ายอมแพ้ให้กับความไม่ถูกต้อง ที่คนบางกลุ่มมาขัดขวางไม่ให้คุณมีโอกาสแสดงสิทธิในการปกครองตรงนี้ คุณยอมได้อย่างไร"

แม้ว่าสุดท้ายแล้ว กิตติ จะไม่สามารถใช้สิทธิที่ตนมี แต่เขาย้ำว่ายังไม่หมดหวัง

            "ผมเกือบโดนกระทืบตาย แถมยังมีคนขับเบ๊นซ์มาปาดหน้ากล่าวหาว่าผมเป็นตำรวจ จะเอาตัวไปสอบสวนอีก แต่มันไม่มีหมดหวังหรอก ที่ผมให้สัมภาษณ์นี้ เพราะต้องการจะจุดประกายว่าคุณอย่ายอมแพ้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่ผิดกฎหมาย คุณจะเดินกลับบ้านไปแล้วก็นอนอยู่บ้าน แล้วบอกว่ากูไปมาแล้ว แต่เห็นคนมากั้น แล้วกูก็เดินกลับอย่างนี้เหรอ คือคนไทยไม่ได้ตระหนักถึงประชาธิปไตย สิทธิที่เขามี เรามีอำนาจในการปกครอง ตอนนี้ทุกคนมีสิทธิในการปกครอง คุณอยากจะเลือกตั้ง คุณอยากจะเป็นผู้ปกครองประเทศนี้ คุณก็ไปเป็นส.ส.มาเลือกตั้ง นี่คือความเท่าเทียมกันในสังคมประชาธิปไตย และผมต้องการจะบอกว่า ถ้าคุณไม่ชอบรัฐบาลนี้ ไม่ชอบตระกูลนี้ คุณก็ไม่ต้องเลือกเขา คุณก็ไปกาโนโหวต ทำให้เขารู้สิ หรือ เลือกพรรคอื่นสิครับ แต่จะมาบิดกั้นไม่ให้ผมเลือกไม่ได้ คุณไม่ให้โอกาสคนอื่นพูดเลย คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะเลือกอะไร คือ คนไทยไม่ได้ตระหนักในอดีตของตัวเองว่ากว่าเราจะฝ่าฟันมาได้การเลือกตั้งวันนี้มันยากเย็นแสนเข็ญ"


-มองว่าสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไรเทียบกับความขัดแย้งในอดีตอย่าง14ตุลา

ยุคนี้เป็นยุคประชาธิปไตยที่ดีนะความขัดแย้งในเชิงรัฐศาสตร์เขาก็พูดว่าสังคมที่มีความขัดแย้งว่าดีนะไปอ่านดู มาเคียเวลลีก็บอกเลยว่า สังคมโรมันก็มีการทะเลาะเบาะแว้งตลอดเวลา สังคมที่ดีต้องมีการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะมันต้องมีการตรวจสอบ คุณโกงก็โดนโวยวาย ด่าว่าด่าทอ คือมันเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าคุณต้องอยู่ในกรอบกติกาสิ คุณทำผิดกฎหมายชาวบ้านเดือดร้อนไปหมด แล้วผมบอกว่าไม่ชอบคุณจะยอมกลับไหม ก็ไม่กลับ แล้วคุณยังมาปิดล้อมไม่ให้ผมเลือกตั้งอีก

คือยุค 14 ตุลา มันเป็นเผด็จการ รัฐบาลทหารอยู่แล้ว คุณไม่มีสิทธิบอกว่าไม่เอา ไม่ชอบ รู้จักนั่งยางไหม คือ ใครไม่ชอบก็หิ้วปีกคุณไป แล้วไม่มีกฎหมายคุ้มครองคุณ คุณต้องเงียบและปิดปากอย่างเดียว ยุคนั้นน่ะ แต่ยุคนี้มันไม่ใช่ คุณจะด่ารัฐบาลออกเคเบิ้ลทีวีอะไรก็ได้ คุณไปเดินขบวนไปบอกชาวบ้านทั่วประเทศว่ามันไม่ดี มันโกงยังไงก็ได้ถูกไหม แล้วอย่างนี้จะไม่ดีตรงไหน



[​IMG]

ถ้าบอกว่ายิ่งลักษณ์โกงไม่แนบเนียนคุณก็ด่าได้ คุณก็ไล่เขาได้ นี่เขาก็ยุบสภาไป เพราะคุณไปแฉว่าเขาผิดยังไงใช่ไหม นี่คือประชาธิปไตย นี่มันเป็นสิ่งสวยงาม ผมไม่ได้มองว่าความขัดแย้งเป็นสิ่งเลว ผมยอมรับได้นะที่จะมาปิดถนน แต่นี่เล่นไปกันไม่ให้คนมาเลือกตั้ง ที่เป็นสิทธิพื้นฐานการปกครอง

แล้วได้ฟังไหมบลูสกายที่เขาจะเอาคนทุกภาคส่วนมาให้ความเห็นเกี่ยวกับปฏิรูปการเมือง แล้วแค่ผมจะมาแสดงความคิดเห็นด้วยการเลือกตั้งก็ไม่เอา คุณไม่ฟังผม แล้วปฏิรูปที่เขาบอกคุณรับกันได้เหรอ อย่างผมถ้าคนรอบข้างบอกว่าโง่ เราก็ต้องยืนหยัดบนความถูกต้อง ความชอบธรรมเราต้องยืนหยัดให้เห็น ไม่ใช่ว่าเลือกตั้งแพ้ คุณก็ไม่ลงสมัคร ไม่ไปเลือกตั้งอย่างนี้เหรอ เราต้องยืนหยัดไม่ท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง คือ ถึงแม้ไม่มีใครเห็นด้วยกับผมที่ทำ ก็ต้องยืนหยัดความถูกต้อง อย่าเดินหนีแล้วไม่ทำอะไร

"ลองเขียนถามคนอ่านดูสิครับว่า แค่ผู้ชายคนหนึ่งจะเดินเข้าไปคูหาเลือกตั้ง มันผิดตรงไหน?" เสียงคำถามดังก้อง ทว่า..คำตอบจะอยู่ในสายลมหรือไม่

สุเทพท้ายิ่งลักษณ์เดินหน้าเลือกตั้ง....

สุเทพท้ายิ่งลักษณ์เดินหน้าเลือกตั้ง

"สุเทพ"ท้ายิ่งลักษณ์เดินหน้าเลือกตั้ง ย้ำมวลชนไม่สนใจเพราะต้องการโค่นระบอบทักษิณ เย้ย "เฉลิม"ไม่ใช่คนกล้า.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1hEmL3X
             เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ขึ้นปราศรัยบนเวทีชุมนุมแยกปทุมวัน ระบุว่า ขอแนะนำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่จะไปพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในวันที่ 28 ม.ค.ว่า ไม่ต้องเลื่อนเลือกตั้งให้เดินหน้าเลือกตั้งไปเลย แม้จะไปตกลงกกต.จะเลื่อนไปกี่วันกี่เดือน มวลมหาประชาชนไม่ได้สนใจเลย เพราะสิ่งที่มวลมหาประชาชนเดินหน้าคือ ไม่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีระบอบทักษิณอยู่ในบัญชีรายชื่อส.ส.อีกต่อไป

              "พวกเราไม่โง่หรอก ต่อให้คุณเลือกตั้ง คุณก็โกงเข้ามาอีก เอาสมุนเข้ามาในสภา เผลอๆคิวต่อไปให้หลานชายเข้ามาไม่แน่ และเข้ามาก่อกรรมทำเข็ญโกงชาติโกงเมืองต่อไป เรารู้เห็นพฤติกรรมของคุณชัดแจ้งแดงแจ๋ จำได้หมดทุกคน"นายสุเทพกล่าว

             นายสุเทพ กล่าวอีกว่า  มีความพยายามตั้งทีมเจรจาขอคืนพื้นที่แต่ไม่ได้พูดต่อว่า เมื่อกปปส.ไม่ให้จะเกิดอะไรขึ้นแท้ที่จริงเขาต้องการให้เห็นว่า มีการพูดจาดีแล้วเมื่อไม่ยอมก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาสลายการชุมนุมโดยวันแรกได้ส่งทีมเจรจาที่เวทีแจ้งวัฒนะ

             "ผมได้กราบนมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระทางโทรศัพท์ อยากไปหาหลวงปู่แต่ไปไม่ได้เพราะพวก ร.ต.อ.เฉลิมกำลังจ้องเอาชีวิตผม ขอให้หลวงปู่ตัดสินใจตามที่เห็นสมควรถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ให้ติดต่อมาจะได้ยกกำลังไปช่วยหรือจะมาสมทบที่แยกปทุมวันก็ได้"นายสุเทพ กล่าว

           นายสุเทพ กล่าวถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ที่ไปสั่งการตำรวจให้ดำเนินการกับนายสุเทพอย่างเด็ดขาดนั้นได้รับข้อมูลมาจากคนที่บันทึกเทปมาให้แต่ขอบอกว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ใช่คนกล้า
"สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ดูแลความสงบชายแดนภาคใต้ไม่กล้าลงไปดูแลสักครั้ง ถ้ากลัวตายไปรับตำแหน่งทำไม มานี่สิเฉลิม แน่จริงมาเวทีนี้ จะอนุญาตให้ขึ้นมาด่ากำนันสุเทพบนเวที ไม่กล้าใช่ไหม นั่งรออยู่ศรส.นั่นแหละ กำนันสุเทพจะพามวลชนไปปิดศูนย์เอง"นายสุเทพ กล่าว

           ก่อนหน้านี้นายสุเทพกล่าวปราศรัยบนเวทีที่แยกราชประสงค์ว่า จะไม่ยอมรับการเจรจาขอพื้นที่คืน แม้ว่ารัฐบาลจะต้องการพื้นที่คืน โดยอ้างว่าให้ข้าราชการทำงานก็ตาม เนื่องจากการชัตดาวน์กทม.มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้าราชการไมสามารถทำงานได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น จะไม่มีการคืนพื้นที่ มีแต่จะยึดเพิ่มขึ้นเท่านั้น

         นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ชุมนุมรักษาความบริสุทธิ์ ยึดหลักสงบ สันติ อหิงสาไว้ หากรัฐบาลจะสลายให้ใช้อย่างเดียวคือบทอิติปิโสท่องไปเรื่อยๆ หากยึดหลักนี้ ก็ไม่มีความรุนแรง มวลชนก็จะเข้าร่วมมากขึ้น

สื้อต่างประ้เทศ ลงภาพนี้กันทั่วโลก แต่สื่อไทย ไม่เคยเห็น



ทุกประเทศกล้าลงรูปนี้หมด ยกเว้นประเทศไทย ที่สื่อ ยังกลัว กปปส.เพราะภาพนี้มันคือ ภาพที่บอกได้ว่า ม็อบนี้ทำระยำอะไร  ภาพนี้เค้าบอกจากหนังสือพิมพ์รายวันในใต้หวัน

อ้าวไอ้สาด ไหนว่าจะต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง



ไอ้หัวหน้าแก๊งส์บอยคอตเลือกตัั้้งแม่งก็แอบไปเลือก





ใครยิงใคร

รถคันที่ 1 เป็นรถบรรทุก กปท. ที่นายสุทิน นั่ง ....  เข้าใจผิดว่า พวกที่อยู่ข้างหน้า เป็นเสื้อแดง เพราะลูกน้องรายงานว่า มีเสื้อแดงอยู่ข้างหน้า โดยที่ลูกน้อง โง่ เข้าใจผิดว่าธงวัดศรีเอี่ยมเป็นธงของเสื้อแดง
ทำให้รถ กปท. รถบรรทุกฝ่าออกไป ด้วยการยิงเปิดทาง ....











รถคันที่ 2 เป็นรถหัวหน้าการ์ค กปปส. ก็เข้าใจผิด ในช่วงชุลมุน ก็สวนกลับไป (กลุ่มการ์ค กปปส. ยิงสวนกลับไป)ทำให้นายสุทินเสียชีวิต (ยิงกันโดยเข้าใจผิด)

ต่อมากลุ่ม กปท. พวกนายสุทินที่เสียชีวิต ที่จึงไปพังรถโตโยต้า ที่พบบัตรหัวหน้าการ์คและพบอาวุธ
ตามคลิปวีดีโอ ที่ถ่ายจากคอนโด

สรุปว่า ยิงกันเอง และตีกันเอง ระหว่าง กปท. ที่เสียชีวิต(รถบบรทุก) และกลุ่ม กปปส. ที่พบบัตรหัวหน้าการ์ค กปปส. (รถโตโยต้า)















รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ - เสียชีวิต เหตุปะทะ วัดศรีเอี่ยม ที่รพ.วิภารามฯ
  • 1.นายสมคิด ไชยคชเดช อายุ 56 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงต้นแขนขวา 
  • 2.นายคัมภีอานัญชัย สิริอาภรณ์ อายุ 60 ปี ชาวจ.นครปฐม ถูกตีศีรษะ 
  • 3.นายบุญเหลือ งามพินิจ อายุ 30 ปี ชาวจ.ระนอง ถูกยิงต้นขาขวาด้านใน 
  • 4.นายเฉื่อย แคลนกระโทก อายุ 75 ปี ชาวจ.นครราชสีมา ถูกตีหัวและลำตัว 
  • 5.นายวิชาญ สุขบางนพ อายุ 54 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงข้อมือซ้าย 
  • 6.นายสุทิน ธาราทิน อายุ 52 ปี ถูกยิงศีรษะและหน้าอกขวา เสียชีวิต 













Photo

รถคันที่โดนนี้ เป็นรถการ์ด อาวุธเพียบเลย