วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สุเทพประกาศภาวะสุญญากาศ-ไม่มีรัฐบาล เรียกร้องนายกฯ ลาออกรักษาการ

สุเทพประกาศภาวะสุญญากาศ-ไม่มีรัฐบาล เรียกร้องนายกฯ ลาออกรักษาการ

สุเทพ เทือกสุบรรณประกาศว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโมฆะไปแล้ว ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของ กปปส. ซึ่งพร้อมอภิวัฒน์ประเทศ และปราศรัยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ครม. ประธานวุฒิสภาลาออก เพื่อให้รองประธานวุฒิสภากราบบังคมทูลเสนอชื่อคนดีเป็นนายกรัฐมนตรี
สุเทพปราศรัยเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ครม. ประธานวุฒิสภาลาออกจากรักษาการ
10 ธ.ค. 2556 - เมื่อเวลา 20.10 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ได้ขึ้นปราศรัยที่แยกนางเลิ้ง ตอนหนึ่งกล่าวตอบโต้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า "ไม่มีคนไทยไล่ทักษิณ แต่ทักษิณไปเองเพราะหนีคดี ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ไม่เลิกนิสัยนี้ อีกไม่ช้าไม่นานต้องหนีคดีไปอยู่กับพี่ชายเช่นเดียวกัน แล้วอย่าหาว่าคนไทยเนรเทศนะครับ ที่ผู้ชุมนุมตะโกนว่า "ออกไปๆ" หมายถึงให้ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่ออกจากประเทศไทย"
สุเทพปราศรัยต่อว่า สภาพความเป็นรัฐบาลหมดไปแล้ว ความเป็นนายกรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ ความเป็นคณะรัฐมนตรีจบไปแล้ว ตั้งแต่วันที่พวกคุณลุกขึ้นปฏิเสธไม่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญจึงโมฆะไปหมดแล้ว วันนี้ประชาชนลุกขึ้นทวงคืนอำนาจอธิปไตยอย่างชอบธรรมถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 เขาเอาคืนเพราะพวกคุณเอาอำนาจไปใช้เสียหาย จึงต้องเอาคืน
"เมื่อความเป็นรัฐบาลหมดไป สิ้นสภาพไป ต้องถือว่าวันนี้ประเทศไทยไม่มีรัฐบาล ไม่มีคณะรัฐมนตรี จะต้องจัดการนายกรัฐมนตรีของประชาชน สภาของประชาชน คนไทยนั้นใจดีมีเมตตาให้โอกาสนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ และ ครม. ให้ได้ส่งคืนอำนาจอธิปไตยให้เกิดความราบรื่น ไม่ต้องเกิดปัญหาหรือเรื่องวุ่นวายในประเทศ ทำให้สงบ เรียบร้อย ทำกันดีๆ แต่ยิ่งลักษณ์ไม่เข้าใจ เถียงคอเป็นเอ็นที่ได้คะแนนมาคนลงคะแนนให้ 14-15 ล้าน คนเดินขบวนไม่กี่ล้าน ดูสิแกแกล้งทำโง่ไปได้ คุณยิ่งลักษณ์ ครอบครัวคนไทยมี 4-5 คนเป็นอย่างน้อย คนที่เดินเป็นตัวแทนคนที่บ้านอีกสี่ห้าคน คุณยิ่งลักษณ์คูณไม่เป็นหรือไง"
"เนื่องจากรัฐบาลไม่ชอบธรรม เราถึงได้ประกาศให้คุณยิ่งลักษณ์และคณะประกาศเสียเองว่าไม่ขอเป็นรัฐบาลรักษาการณ์โดยที่ประชาชนไม่ต้องบังคับ แต่คุณยิ่งลักษณ์อ้างว่ายุบสภาแล้ว ถอยแล้ว เห็นใจกันบ้าง ผมว่ามันถอยไม่พอ คุณยิ่งลักษณ์ต้องถอยอีก ถ้าไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกเกลียดชังมากกว่านี้ ขอแนะให้คุณยิ่งลักษณ์ทำตามข้อเสนอ กปปส. ลาออกเสียจากการรักษาการ เพื่อให้มีการตั้งคนดีที่คนทั้งประเทศยอมรับ มาเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชน เพื่อให้เดินหน้าเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของประชาชน นั่นแหละถึงจะเรียกว่าถอย"
"ถอยแบบยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แล้วอยู่ปาร์ตี้ลิสต์ใหม่ลำดับหนึ่ง เขาเรียกว่าถอยเพื่อมากินต่อ โกงต่อ เขาไม่เอา คุณทำตัวไร้เดียงสา โง่เขลาเบาปัญญาได้ แต่ประชาชนรู้เท่าทันพวกคุณหมดแล้วทั้งประเทศไทย คุณยิ่งลักษณ์ออกมาบอกว่า 'ไม่ได้ ลาออกจากรักษาการณ์ไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าละทิ้งหน้าที่' ดังนั้นวันนี้ต้องว่าเสียหน่อย ที่บอกว่าไม่มีกฎหมายเขียน ไม่มีกฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่าให้ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ก็ตอนเขาร่างรัฐธรรมนูญ เขานึกไม่ถึงยังไงละครับว่ามีนายกรัฐมนตรีทำความเลวเสียหาย จนประชาชนทั้งประเทศทนไม่ได้ยังไงล่ะครับ คุณชัยเกษม นิติสิริ ผมจะบอกให้ว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ไม่ต้องเปิดตำรามาตอบ นี่เป็นสถานการณ์พิเศษไม่เคยคาดคิดในกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ แต่มีประเพณีปฏิบัติเมื่อปี 2516 เมื่อเกิดเหตุการณ์ลุกฮือเดินขบวน แล้วเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นจอมพลถอนม ลาออก แล้วไม่รักษาการ ไปต่างประเทศเลย ผมต้องยกย่องจอมพลถนอมนะครับ ใหญ่โตมาก มีอำนาจในมือ มีเหตุร้ายเกิดขึ้นนักศึกษาเสียชีวิต จอมพลถนอมลาออก ไม่รักษาการ ไปต่างประเทศ เพื่อให้ประเทศสงบเรียบร้อยลง"
"แล้วรองประธานสภานิติบัญญัติขณะนั้นนำความกราบบังคมทูลฯ ว่า สภานิติบัญญัติเห็นสมควรให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์เป็นนายกรัฐมนตรี นี่เขามีประเพณีปฏิบัติ เหตุการณ์นั้นคือเหตุการณ์ที่ผิดปกติ ไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดา วันนั้นไม่มีกฎหมายเขียนเอาไว้ ที่คุณชัยเกษมเอามาอ้างนั้นขอตอบว่าเขาเคยทำมาแล้ว และผ่านพ้นมาด้วยดี"
"นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์อย่ามาเถียงข้างๆ คูๆ ลาออกไม่ได้เดี๋ยวผิดฐานละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ แม่ทูนหัวช่วยลาออกเสียทีเถิด เอาอย่างนี้ไหมล่ะ นายกรัฐมนตรี ครม. ลาออกรักษาการทั้งคณะไปเลย แล้วให้ประธานวุฒิสภาออกไปด้วย เพราะคนนี้เป็นขี้ข้า เหลือรองประธานวุฒิสภาใช้ได้ ให้รองประธานวุฒิสภากราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวขอเสนอชื่อคนดีเป็นนายกรัฐมนตรี" สุเทพกล่าว

กปปส.ประกาศนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโมฆะ และขอให้ประชาชนมั่นใจในรัฏฐาธิปัตย์ของ กปปส.
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 19.10 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นเวทีที่แยกสวนมิสกวันอ่านประกาศ กปปส. ฉบับที่ 1/2556 เรื่อง"ความเป็นโมฆะของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.)" ระบุว่า
"ตามที่ศาล รธน. ได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 20  พ.ย.2556 ความว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติม รธน. ที่มา ส.ว. มีสาระสำคัญ ขัดแย้งต่อหลักการพื้นฐานและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ2550  อันเป็นการทำให้ผู้ถูกร้องได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ฝ่าฝืนมาตรา 68 วรรค 1 ซึ่งภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทน  ประธานวุฒิ ส.ส.  ส.ว. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งดังกล่าวได้แถลงไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
"ประกอบกับนายกฯ ได้นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย ทั้งที่มีเนื้อหาและกระบวนการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรค 5  ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ให้ต้องปฏิบัติตามเป็นเด็ดขาด"
"และต่อมาวันที่ 9 ธ.ค 2556   นายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยยังไม่ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรทั้งมาตรา 108 บัญญัติให้เป็นพระราชอำนาจ  นับเป็นการกระทำอันล่วงละเมิดพระราชอำนาจอย่างชัดแจ้งที่ไม่เคยมีมาก่อน  ทั้งเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีกดังปรากฏตามคำแถลงการณ์ของสภาทนายความ"
"การกระทำทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นถือได้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันจงใจกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริตและตั้งตนเหนือรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้รัฐบาลชุดนี้ตกเป็นโมฆะนับแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการจงใจล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริตดังกล่าว มีความร้ายแรงถึงขนาดไม่อาจให้รัฐบาลสามารถใช้อำนาจในนามของประชาชนได้อีกต่อไปดังนั้น แม้นายกฯ ได้ประกาศยุบสภาไปแล้ว ก็ไม่ส่งผลให้รัฐบาลที่สิ้นสภาพไปแล้วรักษาการต่อไปได้"
"เมื่อกรณีเป็นไปตามความดังกล่าวข้างต้น จึงถือได้ว่าในเวลานี้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศเนื่องจากไม่มีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว จึงชอบที่จะต้องมีการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยการจัดให้มีนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ เพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยตามเจตจำนงของมวลมหาประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนได้มั่นใจกับหลักการประชาภิวัฒน์ ด้วยวิธีสงบ สันติ อหิงสาต่อไป และเชื่อมั่นในความเป็นรัฏฐาธิปัตย์แห่งมวลมหาชนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงและได้ทวงกลับคืนมาไว้ได้โดยสิ้นเชิงและพร้อมที่จะประชาภิวัฒน์ประเทศไทยโดยเร็วต่อไป ประกาศ ณ วันที่ 10 ธ.ค. 56 ลงชื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส."

สุเทพ เทือกสุบรรณ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อนึ่งในช่วงบ่าย มีรายงานว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เข้าหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ที่บ้านพักพลเอกประวิตร ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ โดยในเวลา 13.30 น. มีการส่งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า พราโด้ ไปรับนายสุเทพที่จุดนัดหมายเพื่อเข้ามาภายใน ร.1 รอ. จากนั้นได้ให้รถยนต์คันเดิมกลับออกไปในเวลาประมาณ 16.00 น. (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)

ศอ.รส.แถลง ศูนย์ราชการถูกม็อบกบฏประชาธิปัตย์ ทำลายทรัพย์สินราชการ


ศอ.รส.แถลง ศูนย์ราชการถูกม็อบกบฏประชาธิปัตย์ ทำลายทรัพย์สินราชการ




          ศอ.รส.แถลงหลังม็อบเคลื่อนย้ายออกจากศูนย์แจ้งวัฒนะพบหลายห้องถูกงัดรื้อค้นทรัพย์สินแจ้งความแล้ว

          พ.ต.อ.อนุชา รมยะนันท์ ในฐานะรองโฆษก ศอ.รส.แถลงว่า ได้ส่งชุดพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าไปตรวจสอบภายในพื้นที่ศูนย์ราชการ อาคารบี แจ้งวัฒนะหลังกลุ่ทกปปส.เคลื่อนย้ายการชุมนุมออกไป เบื้องต้น สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เพียงหน่วยราชการภายในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย สำนักงานจเรตำรวจ สำนักงานตรวจสอบภายใน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. และ สำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง 1 พบว่า ห้องต่าง ๆ ถูกงัด และมีการรื้อค้นทรัพย์สิน ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความได้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง

           ส่วนที่กระทรวงการคลัง สามารถตรวจสอบได้เพียงพื้นที่โดยรอบ ยังไม่สามารถเข้าไปภายในได้ เบื้องต้นพบว่า รถตู้ของกระทรวงการคลัง และรถข้าราชการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกงัดแงะได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ จะประสานกับผู้เสียหายให้เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          นอกจากนี้ ทาง ผอ.ศอ.รส. ได้กล่าวขอบคุณผู้ชุมนุมที่มีการชุมนุมอย่างสงบ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และชมเชยกองกำลังทุกส่วน ที่ดูแลสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึง อำนวยความสะดวกทางด้านการจราจรด้วย

"อเมริกา" แถลงการณ์สนับสนุน "นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่ใช้หนทางประชาธิปไตยแก้ไขการเมืองอย่างสันติ

"อเมริกา" แถลงการณ์สนับสนุน "นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่ใช้หนทางประชาธิปไตยแก้ไขการเมืองอย่างสันติ

             เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. น.ส.เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา แถลงถึงท่าทีล่าสุดของสหรัฐต่อสถานการณ์การเมืองไทย หลังนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศยุบสภาว่า


            "สหรัฐอเมริกาสนับสนุนอย่างยิ่งต่อสถาบันและกระบวนการทางประชาธิปไตยในประเทศไทย เพื่อนและพันธมิตรที่ยาวนานของสหรัฐการที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์เดินหน้าให้มีการเลือกตั้ง เป็นหนทางก้าวต่อไปท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองและการประท้วง เราสนับสนุนให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองอย่างสันติ ตามครรลองประชาธิปไตย ในวิถีทางที่สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนคนไทยและเสริมสร้างหลักนิติธรรม"


U.S.DEPARTMENTOF STATE
Office of the Spokesperson
December 9, 2013
STATEMENT BY JEN PSAKI, SPOKESPERSON
Political Tensions in Thailand



The United States strongly supports democratic institutions and the democratic process in Thailand, a longtime friend and ally. Prime Minister Yingluck has called for elections as a way forward amid ongoing political tensions and demonstrations. We encourage all involved to resolve political differences peacefully and democratically in a way that reflects the will of the Thai people and strengthens the rule of law.

บทความพิเศษ พิชิต ชื่นบาน: หยุดละเมิดพระราชอำนาจ


บทความพิเศษ พิชิต ชื่นบาน: หยุดละเมิดพระราชอำนาจ



หยุดละเมิดพระราชอำนาจ

          วันนี้กระผมต้องขออนุญาตกระทำการใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และขอพิทักษ์ไว้ซึ่งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์จากการกระทำของบุคคล และคณะบุคคลที่กระทำการโดยมิบังควร โดยละเมิดรัฐธรรมนูญ และละเมิดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

          อำนาจอธิปไตย มาตรา ๓ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ พระมหากษัตริย์ มาตรา ๘ องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

           เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลาประมาณ ๑๙.๓๐ นาฬิกา ที่สามแยกนางเลิ้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส. ได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า “วันนี้ประชาชนที่มาเลือกข้างถูก เมื่อแถลงว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน แปลว่า ประชาชนจะเป็นคนจัดการบริหารประเทศเอง ต่อจากนี้ประชาชนจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลของประชาชน เราจะจัดเวทีสภาประชาชน” 

            คำปราศรัยดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญ และละเมิด และลิดรอนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญกล่าวคือ
การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี มาตรา ๑๗๑ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง และรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกินสามสิบห้าคน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี

           คำถาม เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า ต่อจากนี้ประชาชนจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลของประชาชนโดยตรง พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ จะถูกละเมิด และลิดรอน โดยการกระทำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะกปปส. หรือไม่ เพราะพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และหากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กระทำสำเร็จ ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓,๘ และมาตรา ๑๗๑ ทิ้งใช่หรือไม่

          ทุกคนต้องช่วยหาคำตอบ และช่วยกันชี้ความถูกผิดให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ครับ จะกล่าวหารัฐบาล และสมาชิกรัฐสภาเป็นสิทธิครับ เราเคารพสิทธิ และเสรีภาพ แต่ต้องไม่นอกกรอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ซึ่งเป็น“หลักนิติรัฐ” ครับ