วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"ม็อบสามเสน" ระส่ำหนัก! ประชาธิปัตย์เอาไม่จริง หลอกคนมาชุมนุมต้านนิรโทษ ASTV สั่งตัดสัญญาณดาวเทียม


"ม็อบสามเสน" ระส่ำหนัก! ประชาธิปัตย์เอาไม่จริง หลอกคนมาชุมนุมต้านนิรโทษ ASTV สั่งตัดสัญญาณดาวเทียม

         "ม็อบสามเสน" ระส่ำหนัก! ประชาธิปัตย์เอาไม่จริง หลอกคนมาชุมนุมต้านนิรโทษ พอง่วงกลับบ้านนอน "สนธิ" สุดทน! สั่ง ASTV ตัดสัญญาณดาวเทียม แฉประชาธิปัตย์ปราศรัยซ้ำซาก การถ่ายทอดสดไม่เกิดประโยชน์ ไทยรัฐแฉเองคนกร่อย-ม็อบหงอย




             2 พฤศจิกายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ASTV ตัดสัญญาณการถ่ายทอดสดการชุมนุม "ม็อบสามเสน" ซึ่งเปิดเผยโดยนายปานเทพ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯฯ เจ้าของฉายา "สาวปาน" ระบุว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่จริงใจกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุม พร้อมกับสั่งให้รถถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ออกจากพื้นที่บริเวณที่ชุมนุมด้วย ขณะที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐพาดหัวข่าวสรุปความเคลื่อนไหวล่าสุดของม็อบสามเสน-อุรุพงศ์ว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเบาบางเนื่องจากทยอยกลับบ้านกันเกือบหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยิ่งดึกเริ่มหงอย ม็อบอุรุพงษ์-สามเสน คนทยอยกลับบ้าน
http://www.thairath.co.th/content/pol/380135

ด่วน! ฝ่ายต้านนิรโทษแตกแยกหนัก ASTV ประกาศงดถ่ายทอดม็อบสามเสน แฉประชาธิปัตย์ทอดทิ้งและทำลายความคาดหวังผู้ชุมนุม
http://www.go6tv.com/2013/11/astv.html

ด่วน! ฝ่ายต้านนิรโทษแตกแยกหนัก ASTV ประกาศงดถ่ายทอดม็อบสามเสน แฉประชาธิปัตย์ทอดทิ้งและทำลายความคาดหวังผู้ชุมนุม

            ไม่เผาผี! "สาวปานเทพ" แกนนนำพันธมิตรฯโพสต์เฟสบุ๊กประกาศ "สนธิ-ASTV" ฉุนหนัก แฉเอง ประชาธิปัตย์ทอดทิ้งและทำลายความคาดหวังของผู้ชุมนุม ขอยุติการถ่ายทอดสดสัญญาณดาวเทียมจากเวที "ม็อบสามเสน" ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

         2 พฤศจิกายน 2556 go6TV ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ผ่านมา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯฯ เจ้าของฉายา "สาวปาน" ได้โพสต์ข้อความ โดยมีเนื้อหาดังนี้



ASTV ขอยุติการถ่ายทอดสดที่เวทีสถานีรถไฟสามเสน
           เดิม ASTV ไปถ่ายทอดสดที่สถานีรถไฟสามเสน ภายใต้การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์เพราะคิดว่าประชาธิปัตย์จะสู้จริง และเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกระดับการชุมนุมตามสัญญาและตามสถานการณ์วิกฤติของบ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้น แต่เมื่อเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจริงใจในการนำมวลชนเพื่อหยุดยั้งการเมืองที่ล้มเหลว กลับคงระดับการชุมนุมไว้เพียงการคัดค้านปัญหารายประเด็นโดยไม่ยกระดับการชุมนุม และฝากความหวังและโยนความรับผิดชอบไว้กับคนกลุ่มอื่น เช่น ส.ว. และศาลรัฐธรรมนูญ โดยไม่เคยแสดงทิศทางหรือความรับผิดชอบในการชุมนุมของตัวเองให้เป็นไปตามความคาดหวังของมวลชนผู้มาชุมนุมแต่อย่างใด

         นอกจากนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกล่าวถึงการปฏิรูปบ้านเมืองในเรื่องสำคัญๆ เช่น คดีทุจริตไม่มีอายุความ, การปฏิรูปพลังงานเพื่อคนไทย 65 ล้านคน, และการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติถ่วงดุลฝ่ายบริหารได้จริง ฯลฯ ก็ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายของประชาธิปัตย์ยังต่ำกว่าความคาดหวังของประชาชนอีกจำนวนมาก และสะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมที่จะเสียสละอำนาจและผลประโยชน์ให้กับประชาชน 65 ล้านคน ในวันข้างหน้าหากมีอำนาจ

         บัดนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ทอดทิ้งและทำลายความคาดหวังของผู้ชุมนุมไปแล้ว เพราะมีแต่การปราศรัยหาเสียงและคะแนนนิยมให้พรรคประชาธิปัตย์เพื่อการเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งที่เนื้อหาการปราศรัยซ้ำซากเหล่านั้นประชาชนที่มาชุมนุมและรับชมทาง ASTV ต่างรับทราบและรับรู้ทั้งหมดอยู่แล้ว การถ่ายทอดสดจึงไม่เกิดประโยชน์ใดๆอีกต่อไปทั้งต่มวลชนและผู้ชม และการสนับสนุนตลอดจนการให้โอกาสกับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ความจริงได้เสร็จสิ้น จนสิ้นสงสัยแล้ว

         คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จึงได้ตัดสินใจให้ ASTV หยุดการถ่ายทอดสดที่สถานีรถไฟสามเสน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและให้เคลื่อนรถถ่ายทอดสดไปยังเวทีที่อุรุพงษ์ที่ชูธงการปฏิรูปประเทศ และดำเนินการรายงานข่าว ถ่ายทอดสด เก็บหลักฐานเฝ้าระวังตามสถานการณ์ที่เหมาะสมต่อไป

แฉภาพชัด! "ย้อมแมวเด็กมัธยม" ขึ้นม็อบการเมือง!


แฉภาพชัด! "ย้อมแมวเด็กมัธยม" ขึ้นม็อบการเมือง!

        วันที่ 3 พฤศจิกายน 2556 (go6TV) เปิดเผยภาพม็อบดัง ย้อมแมว "เด็กมัธยมวัยรุ่น" ขึ้นเวทีการเมือง อ้างเป็นนักเรียน ที่แท้ "วัยรุ่น" ถูกจ้างใส่เสื้อนักเรียน สลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีแต่ละสัปดาห์


          ทีมงานได้ติดตามเรื่องการใช้เด็กนักเรียนขึ้นเวทีแสดงพลังทางการเมืองมาระยะหนึ่ง และได้แฝงตัวเป็นอาสาสมัครอยู่ในกองทัพนิรนาม ได้เรียนรู้เส้นทางการพาเด็กนักเรียนมายังม็อบสวนลุม อุรุพงษ์ และล่าสุด ม็อบสามเสน ล้วนต่างอาศัยเส้นทาง "หาเด็ก" จากแหล่งเดียวกัน และเด็กแต่ละคนนั้น ก็มีทั้งเด็กนักเรียนจริงๆ และเด็กนักเรียนปลอมๆ แต่ละสัปดาห์ เด็กกลุ่มเดิมๆ ก็จะถูกจ้างมายังม็อบ แต่เปลี่ยนเสื้อนักเรียนให้แตกต่างกันไป โดยจะมีคนไปกว้านซื้อเสื้อนักเรียนเก่าๆ มาให้เด็กเหล่านี้ใส่ ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนอ้างชื่อแต่ละโรงเรียนให้หลากหลายแตกต่างกันไป


อักษรบนหน้าอกเสื้อ แต่ละสัปดาห์ จะมีอักษรย่อไม่เหมือนกัน

          ดังตัวอย่างในภาพนี้ เด็กคนนี้ ถูกพามาปรากฏตัวที่ม็อบสวนลุม อุรุพงษ์ และล่าสุดเวทีสามเสน และหากสังเกตที่หน้าอกเสื้อเด็กคนนี้ จะสังเกตได้ว่า ใส่เสื้อนักเรียน ปักอักษรย่อโรงเรียนที่แตกต่างกัน ทั้งภาพด้านซ้ายและด้านขวา ภาพด้านซ้ายใส่เสื้อผูกผ้าโพกหัวของม็อบ ปักอักษรย่อ 3 ตัว (ขอสงวนชื่อโรงเรียนจริง ซึ่งตั้งอยู่แถวอ้อมน้อย สมุทรสาคร) ส่วนภาพด้านขวานั้น เป็นภาพในสัปดาห์ถัดๆมา ปักอักษรย่อ 2 ตัว (ชื่อโรงเรียนจริงของตัวย่อนี้ อยู่แถวกระทุ่มแบน สมุทรสาคร) และยังมีภาพของเด็กคนนี้ เปลี่ยนสีเสื้อเป็นสีอื่นๆ อีกในสัปดาห์หลัง ๆ เวียนไปเรื่อย


          เด็กที่มาชุมนุมนั้น ส่วนมากถูกพามาโดยผู้ใหญ่ที่เป็นลูกศิษย์เครือข่ายสันติอโศก โดยสังเกตได้ว่า หากมีเครือข่ายของสำนักสันติอโศกอยู่ที่ไหน สำนักนั้นก็จะกว้านหาเด็กที่เป็นลูกศิษย์บ้าง คนรู้จักบ้าง จ้างมาอยู่ในม็อบในวันหยุด


          กรณีของเด็กกลุ่มแถวอ้อมน้อย ได้รับการติดต่อจัดหา จากสำนักสาขาสันติอโศกแห่งหนึ่งชื่อ บ้านสมุนไพรพรหมจรรย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยเพชรเกษม 87 (ซอยเทศบาลอ้อมน้อย) เข้าไปในซอยเลี้ยวขวามือไปสุดทาง และในสาขาอื่นๆ ของกลุ่มสันติอโศกทุกแห่ง ก็จะหาเด็กๆ เหล่านี้มาสมทบในวันหยุดเช่นกัน

          เมื่อเด็กเหล่านี้มาถึง หากใส่ชุดนักเรียนตนเองมาก็จะดี แต่หากไม่มี ก็จะมีเสื้อผ้านักเรียนที่จัดเตรียมไว้ให้ จึงทำให้สังเกตได้ว่า "ใบหน้า" ของเด็กที่ดูแก่ มากกว่าวัย และ "ชุดนักเรียน" ที่ไม่ได้ดูเหมาะกับขนาดตัวของเด็ก จึงปรากฏให้เห็นในม็อบอยู่เนืองๆ และหากสังเกตมากกว่านั้น เด็กคนเดียวกัน จะเปลี่ยนเสื้อโรงเรียนทุกสัปดาห์ไม่เหมือนกันเลย



           สังเกตดูรูปร่างกาย กับขนาดเสื้อผ้าที่มีขนาดแตกต่างกันมาก

           นอกจากการจัดหาเสื้อผ้าให้แล้ว ยังมีการจัดรถบัสขนาดใหญ่ รับส่งเด็กดังกล่าว โดยจะจอดที่บริเวณริมถนนวิทยุ ฝั่งประตูโรงเรียนสวนลุมพินี (กทม) ตอนสาย ก็จะมาส่ง และตอนเย็นก็รับกลับไปยังจุดนัดหมาย



           รถบัสรับส่งขนาดใหญ่ ที่จอดไว้ริมถนนวิทยุ ข้างโรงเรียนสวนลุมพินี ตรงข้าม ส.น.ลุมพินี

          เด็กนักเรียนวัยรุ่นนั้น เป็นวัยที่ใจร้อน ไม่คิดละเอียดรอบคอบ ดังนั้นทีมงานจึงเศร้าใจเมื่อได้ทราบถึงขบวนการขนเด็กวัยรุ่นร่วมม็อบ และฝึกให้เป็นนักรบนิรนาม ซึ่งอันตรายสำหรับเด็กเหล่านี้อย่างยิ่ง เราไม่ทราบว่า เด็กที่มาม็อบดังกล่าวนั้น ได้บอกกล่าวให้พ่อแม่หรือไม่ และหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดความสูญเสีย จะมีใครรับผิดชอบหรือไม่ เพราะขณะนี้เจ้าของกองทัพนิรนาม ก็ได้เข้าไปนอนในเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว แต่ก็ยังพบจัดหาเด็กมาม็อบในวันนี้ และเดินจากอุรุพงษ์ไปขึ้นเวทีสามเสน จึงขอฝากให้ผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และฝากพ่อแม่ผู้ปกครองได้ดูแลลูกหลานของท่านอย่างไกล้ชิดด้วย เพื่อความปลอดภัยว่าลูกหลานท่านจะไม่ถูกผู้ใหญ๋ใจร้ายหลอกมาร่วมม็อบการเมืองดังกล่าว

"จำลอง ศรีเมือง" ม็อบสวนลุมฯรวมม็อบอุรุพงษ์ สันติบาลประเมินมีแค่ 3,000 คน


"จำลอง ศรีเมือง" ม็อบสวนลุมฯรวมม็อบอุรุพงษ์ สันติบาลประเมินมีแค่ 3,000 คน




           ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเคลื่อนขบวนมวลชน กปท. และกองทัพธรรมที่เดินเท้ามาจากเวทีสวนลุมพินี ได้เคลื่อนมาถึงเวทีชุมนุมคปท. ที่แยกอุรุพงษ์ เมื่อเวลา 18.40 น. โดยการนำของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง และเครือข่าย ทั้งนี้มวลชนที่ยืนแถวต้อนรับได้ตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจและพยายามฝ่าวงล้อมของการ์ดเข้าไปจับมือกับแกนนำ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างวุ่นวายเล็กน้อย

        ในเวลาต่อมา พล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีปราศรัยโดยมีแกนนำกปท.,คปท. และเครือข่ายยืนเคียงข้างว่า ตนเป็นแกนตาม ตามประชาชนเดินเทัามาถึงแยกอุรุพงษ์ ซึ่งสิ่งที่มวลชนมำถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อรวมพลังปกป้องชาติ และราชบังลังก์ ทั้งนี้ระหว่างการเดินเท้ามาจากสวนลุมพินีผ่านเส้นทางต่างๆ ไม่เจอกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจแท้แต่คนเดียว ซึ่งตนเชื่อว่าตำรวจคาดไม่ถึงกับการเคลื่อนขบวนรอบนี้

       ขณะที่แกนนำ กปท. ที่ขึ้นเวทีปราศรัย ระบุว่า ประชาชนที่เคลื่อนมาจากสวนลุมจะปักหลักค้างคืนที่แยกอุรุพงษ์ และจะใช้เวที คปท. ที่แยกอุรุพงษ์เป็นทัพหน้าของการขับเคลื่อนกิจกรรม

        ผู้สื่อข่าวรายงานถึงตัวเลขของผู้ชุมนุมจากการประเมินของตำรวจสันติบาลและหน่วยความมั่นคง ให้ยอดรวมมวลชนภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จว. ที่ 3,000คน แยกเป็นมวลชนที่ปักหลักรอที่แยกอุรุพงษ์ จำนวน 1,000 และมวลชนที่เคลื่อนมาจากจากสวนลุมพินีและที่มาสมทบระหว่างทาง จำนวน 2,000 คน